วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2554

ไหว้พระ 9 วัด เสริมสิริมงคล กรุงเทพมหานคร

1. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)


คติ แก้วแหวนเงินทาง ไหลมาเทมา
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 1 ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกต ที่พระระเบียงมีจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์ที่วิจิตรงดงามมาก นอกจากนี้ยังมี ปราสาทพระเทพบิดร เป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปรัชกาลที่ 1-8 พระศรีรัตนเจดีย์ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ หอพระราชพงศานุสรณ์ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปประจำรัชกาล ของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และสิ่งก่อสร้างเก่าแก่ทรงคุณค่าที่น่าสนใจอีกมาก

2.วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์ )

คติ ร่มเย็นเป็นสุข
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก เดิมชื่อวัดโพธาราม รัชกาลที่ 3 ทรงมีพระราชประสงค์ให้เป็น มหาวิทยาลัยสำหรับประชาชน มีการรวบรวมสรรพวิชาความรู้มาจารึกบนแผ่นศิลา ติดไว้บริเวณพระอุโบสถ ภายในพระอุโบสถมี พระพุทธเทวปฏิมากร และมีพระวิหาร เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ที่สวยงามที่สุด ปัจจุบันวัดโพธิ์เปิดอบรมเผยแพร่วิชาแพทย์แผนโบราณ โดยผู้ผ่านการอบรม จะได้รับใบประกอบโรคศิลป์จากกระทรวงสาธารณสุข

3. วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร
คติ พบแต่สิ่งดีงามในชีวิต
เป็นวัดโบราณ เดิมชื่อ "วัดใหม่" กรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพในรัชกาลที่ 3 ทรสถาปนาขึ้นใหม่ เมื่อรัชกาลที่ 4 ทรงผนวช ได้เสด็จมาประทับและทรงตั้งคณะสงฆ์ธรรมยุตติกนิกายขึ้นที่วัดนี้เป็นครั้งแรก ถือเป็นวัดที่สำคัญแห่งหนึ่งเพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 รัชกาลที่ 7 และรัชกาลที่ 9 ทรงผนวช ณ วัดแห่งนี้  ภายในพระอุโบสถ มีภาพเขียนฝีมือขรัวอินโข่ง และประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญ เช่น พระสุวรรณเขต พระพุทธชินสีห์ พระนิรันตราย และพระพุทธนินนาท
4. วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
คติ  เสริมสร้างความคิดอันเป็นสิริมงคล
ตั้งอยู่ที่ปากคลองมหานาค เป็นวัดโบราณมีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อ "วัดสะแก" รัชกาลที่ 1 ได้ทรงสถาปนาขึ้นใหม่แล้วพระราชทานนามว่า "วัดสระเกศ" มีพระบรมบรรพต หรือ ภูเขาทอง ซึ่งรัชกาลที่ 4 ทรงดัดแปลงจากพระปรางค์ที่ทรุดพังลง โดยแปลงเป็นภูเขาแลก่อเจดีย์ไว้บนยอด ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

5. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (วัดแจ้ง)

คติ ชีวิตรุ่งโรจน์ทุกคืนวัน
วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อวัดมะกอก เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 2 ภายในวัดมีพระปรางค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก พระอุโบสถประดิษฐาน พระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก ซึ่งรัชกาลที่ 2 ทรงปั้นหุ่นและพระพักตร์ด้วยฝีพระหัตถ์พระองค์เอง

6. วัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร

  คติ ไหว้พระวัดสุทัศน์ฯ วิสัยทัศน์กว้างไกล มีเสน่ห์แก่บุคคลทั่วไป
วัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 8 เดิมชื่อ วัดมหาสุทธาวาส ภายในพระวิหารมี พระศรีศากยมุนี ซึ่งอัญเชิญมาจากสุโขทัย เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ถอดแบบมาจากพระวิหารพระมงคลบพิตร กรุงศรีอยุธยา ส่วนที่พระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธตรีโลกเชฏฐ์ ปางมารวิชัย และยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง อันเป็นฝีมือช่างชั้นครูในสมัยรัชกาลที่ 3 อีกด้วย

7.วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร

คติ มีชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง
วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท สร้างสมัยก่อนกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้เป็นวัดพระสงฆ์ฝ่ายรามัญ มีพระพุทธรูปปั้งลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย พระนามว่า พระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฎฐ์ มเหทธิศักดิ์ปูชนียะชยันตะโคดมบรมศาสดา อนาวรญาณ

8. วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร


คติ มีคนนิยมชมชื่น
วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร หรือวัดระฆัง เป็นพระอารามหลวงชั้นโท เดิมชื่อ วัดบางว้าใหญ่ สร้างตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐาน พระประธานยิ้มรับฟ้า เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) สมเด็จพระราชาคณะในสมัยรัชกาลที่ 4 เมื่อไปสักการะสมเด็จพุฒาจารย์ ให้ขอพรโดยการสวดคาถาชินบัญชร แล้วปักธูปที่กระถาง และปิดทองที่รูปปั้น เสร็จแล้วพรมน้ำมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล
การเดินทางไปยังวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
สถานที่ตั้ง ถนนอรุณอัมรินทร์ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย

9. วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร
คติ เดินทางปลอดภัยดี มีมิตรไมตรีที่ดี
วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท สร้างขึ้นเมื่อสมัยราชกาลที่ 3 เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อโต หรือเรียกตามแบบจีนว่า ซำปอฮุดกง
 หรือ ซำปอกง
แหล่งอ้างอิง  http://www.tourinthai.com/

ทัวร์ไห้วพระ9วัด

ไหว้พระ 9 วัด เสริมสิริมงคล กรุงเทพมหานคร
1. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)


คติ แก้วแหวนเงินทาง ไหลมาเทมา
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 1 ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกต ที่พระระเบียงมีจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์ที่วิจิตรงดงามมาก นอกจากนี้ยังมี ปราสาทพระเทพบิดร เป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปรัชกาลที่ 1-8 พระศรีรัตนเจดีย์ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ หอพระราชพงศานุสรณ์ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปประจำรัชกาล ของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และสิ่งก่อสร้างเก่าแก่ทรงคุณค่าที่น่าสนใจอีกมาก

2.วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์ )

คติ ร่มเย็นเป็นสุข
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก เดิมชื่อวัดโพธาราม รัชกาลที่ 3 ทรงมีพระราชประสงค์ให้เป็น มหาวิทยาลัยสำหรับประชาชน มีการรวบรวมสรรพวิชาความรู้มาจารึกบนแผ่นศิลา ติดไว้บริเวณพระอุโบสถ ภายในพระอุโบสถมี พระพุทธเทวปฏิมากร และมีพระวิหาร เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ที่สวยงามที่สุด ปัจจุบันวัดโพธิ์เปิดอบรมเผยแพร่วิชาแพทย์แผนโบราณ โดยผู้ผ่านการอบรม จะได้รับใบประกอบโรคศิลป์จากกระทรวงสาธารณสุข

3. วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร

คติ พบแต่สิ่งดีงามในชีวิต
เป็นวัดโบราณ เดิมชื่อ "วัดใหม่" กรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพในรัชกาลที่ 3 ทรสถาปนาขึ้นใหม่ เมื่อรัชกาลที่ 4 ทรงผนวช ได้เสด็จมาประทับและทรงตั้งคณะสงฆ์ธรรมยุตติกนิกายขึ้นที่วัดนี้เป็นครั้งแรก ถือเป็นวัดที่สำคัญแห่งหนึ่งเพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 รัชกาลที่ 7 และรัชกาลที่ 9 ทรงผนวช ณ วัดแห่งนี้  ภายในพระอุโบสถ มีภาพเขียนฝีมือขรัวอินโข่ง และประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญ เช่น พระสุวรรณเขต พระพุทธชินสีห์ พระนิรันตราย และพระพุทธนินนาท

4. วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร

คติ  เสริมสร้างความคิดอันเป็นสิริมงคล
ตั้งอยู่ที่ปากคลองมหานาค เป็นวัดโบราณมีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อ "วัดสะแก" รัชกาลที่ 1 ได้ทรงสถาปนาขึ้นใหม่แล้วพระราชทานนามว่า "วัดสระเกศ" มีพระบรมบรรพต หรือ ภูเขาทอง ซึ่งรัชกาลที่ 4 ทรงดัดแปลงจากพระปรางค์ที่ทรุดพังลง โดยแปลงเป็นภูเขาแลก่อเจดีย์ไว้บนยอด ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

5. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (วัดแจ้ง)

คติ ชีวิตรุ่งโรจน์ทุกคืนวัน
วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อวัดมะกอก เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 2 ภายในวัดมีพระปรางค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก พระอุโบสถประดิษฐาน พระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก ซึ่งรัชกาลที่ 2 ทรงปั้นหุ่นและพระพักตร์ด้วยฝีพระหัตถ์พระองค์เอง

6. วัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร

  คติ ไหว้พระวัดสุทัศน์ฯ วิสัยทัศน์กว้างไกล มีเสน่ห์แก่บุคคลทั่วไป
วัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 8 เดิมชื่อ วัดมหาสุทธาวาส ภายในพระวิหารมี พระศรีศากยมุนี ซึ่งอัญเชิญมาจากสุโขทัย เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ถอดแบบมาจากพระวิหารพระมงคลบพิตร กรุงศรีอยุธยา ส่วนที่พระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธตรีโลกเชฏฐ์ ปางมารวิชัย และยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง อันเป็นฝีมือช่างชั้นครูในสมัยรัชกาลที่ 3 อีกด้วย

7.วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร

คติ มีชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง
วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท สร้างสมัยก่อนกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้เป็นวัดพระสงฆ์ฝ่ายรามัญ มีพระพุทธรูปปั้งลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย พระนามว่า พระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฎฐ์ มเหทธิศักดิ์ปูชนียะชยันตะโคดมบรมศาสดา อนาวรญาณ

8. วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร

คติ มีคนนิยมชมชื่น
วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร หรือวัดระฆัง เป็นพระอารามหลวงชั้นโท เดิมชื่อ วัดบางว้าใหญ่ สร้างตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐาน พระประธานยิ้มรับฟ้า เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) สมเด็จพระราชาคณะในสมัยรัชกาลที่ 4 เมื่อไปสักการะสมเด็จพุฒาจารย์ ให้ขอพรโดยการสวดคาถาชินบัญชร แล้วปักธูปที่กระถาง และปิดทองที่รูปปั้น เสร็จแล้วพรมน้ำมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล
การเดินทางไปยังวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
สถานที่ตั้ง ถนนอรุณอัมรินทร์ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย

9. วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร

คติ เดินทางปลอดภัยดี มีมิตรไมตรีที่ดี
วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท สร้างขึ้นเมื่อสมัยราชกาลที่ 3 เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อโต หรือเรียกตามแบบจีนว่า ซำปอฮุดกง
 หรือ ซำปอกง
แหล่งอ้างอิง  http://www.tourinthai.com/